เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ก็เหมือนเข้าสู่ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการหลั่งไหลของผู้คนสู่ตอนบนของประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวตามดอยและอุทยานต่างๆ ดูจะเย้ายวนเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวมากที่สุด ว่าไหมคะ ....ดังนั้น วันนี้เลยขอเอาใจนักชอบเที่ยวทั้งหลาย พาไปท่องเที่ยวที่ "ภูชี้ฟ้า" รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้าน่ะชนะเลิศ ทั้งบรรยากาศและธรรมชาติที่สวยงามจับใจ ราวกับภาพวาดเชียวหละ.. คอนเฟิร์ม!!! ว่าแล้วก็ไปท่องแดนแห่งขุนเขา และสายหมอกที่ภูชี้ฟ้ากันเลย....
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลม เป็นแนวยาวที่ชี้ไปบนฟ้า ทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า "ภูชี้ฟ้า" นั่นเอง ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้จัดตั้ง "ภูชี้ฟ้า" เป็นวนอุทยาน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 ด้วยเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตร ถึง 1,628 เมตร
สำหรับไฮไลท์สำคัญของภูชี้ฟ้า ต้องยกให้จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกทั้งทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว) สวยงามราวกับภาพวาด อย่าบอกใครเชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้ว ก็ยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อีกด้วย หากมาเที่ยวภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าจะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมากอีกเช่นกัน
อ๊ะ..อ๊ะ..แต่ถ้าหากว่าใครคิดจะไปยลโฉมทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้าล่ะก็ ขอบอกว่าต้องขยันหน่อยนะจ๊ะ เพราะที่พักจะตั้งอยู่บริเวณเชิงภู ซึ่งห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ดังนั้น จึงควรขึ้นไปยอดภูตั้งแต่ฟ้ายังมืด ประมาณตีห้า น่าจะกำลังเหมาะ เพราะเมื่อฟ้าเริ่มสว่างจะทำให้เห็นสายหมอกค่อยๆ ก่อตัวเป็นภาพต่างๆ ดูสวยงามราวกับมีช่างวาดฝีมือมาแต่งแต้ม สร้างความประทับใจมิรู้ลืม
นอกจากนี้เสน่ห์ของ "ภูชี้ฟ้า" ยังคงมีบรรยากาศเมืองเหนือเหมือนอุทยานและดอยอื่นๆ มีหมู่บ้านชาวเขา บริเวณตีน ภูชี้ฟ้า เป็นบรรยากาศของการท่องเที่ยว มีที่พักขนาดเล็กๆ หลายแห่งให้เลือกใช้บริการ ดำเนินงานโดยชาวเขาบ้างชาวเราบ้างและที่บริเวณบ้านเช็งเม้งก่อนขึ้นสู่ตีนภูชี้ฟ้า เป็นหมู่บ้านชาวม้ง หากมาเยือนภูชี้ฟ้า ในช่วงปีใหม่ยังจะได้ชมงานปีใหม่ ที่ชาวม้งจะแต่งตัวม้งครบถ้วนทั้งหญิงและชาย จุดเด่นของงาน คือ การโยนลูกช่วงหรือลูกหินระหว่างหนุ่ม – สาว
สำหรับภูมิอากาศบนภูเขา จะค่อนข้างเย็นแต่ฤดูกาลจะเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม "ภูชี้ฟ้า" เป็นดอยเดียวที่ชื่อว่า "ภู" ทั้งที่ตามจริงแล้วจะต้องชื่อว่า "ดอยชี้ฟ้า" ตามคำเรียกของทางเหนือ แต่ว่า ภูชี้ฟ้า เป็นชื่อที่คนต่างถิ่นไปตั้งชื่อ จึงเรียกว่า "ภู" ในสมัยก่อนพื้นที่ของ ภูชี้ฟ้า เป็นแดนผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีการต่อสู้ทางอาวุธและแนวความคิดที่รุนแรงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ครั้นเมื่อลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลายไป เริ่มมีผู้คนเดินทางมาชมธรรมชาติที่นี่ และแล้วชื่อเสียงของภูชี้ฟ้าก็ขจรขจายไปอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น